ในเมื่อมีคนใช้เยอะและเป็นที่นิยมขนาดนี้แล้วแน่นอนว่า Google bot ก็รู้เหมือนกัน สำหรับ Bot มันจะรู้ได้จากโครงสร้างของเว็บนั้นๆ แน่นอนว่าโครงสร้างเว็บเพจส่วนใหญ่และธีมส่วนใหญ่ของเว็บที่ใช้ WordPress นั้นคล้ายๆ กัน ดังนั้นถ้าเราไม่มีการปรับแต่งแก้ไข ให้มันไม่เหมือนเว็บอื่นมันก็จะเป็นเรื่องดี ที่จะทำให้อันดับของเว็บเราแรงขึ้นแน่นอน
สังเกตได้จากเว็บที่ใช้ WordPress 2 เว็บที่ใช้ keyword เดียวกันทำเว็บ ใช้ธีมเดียวกัน ใช้บทความเดียวกันด้วย มันจะให้อันดับเว็บที่มีการอัพเดทบทความล่สุดก่อน Bot มันรู้จากวันที่อัพเดทบทความครับ ดังนั้นธีมที่ใช้นั้นควรจะมีวันที่อัพเดทบทความกำกับไว้ด้วยทุกๆ หน้า ถ้าไม่อยากให้วันที่แสดงก็ซ่อนเอาไว้เช่น
สังเกตได้จากเว็บที่ใช้ WordPress 2 เว็บที่ใช้ keyword เดียวกันทำเว็บ ใช้ธีมเดียวกัน ใช้บทความเดียวกันด้วย มันจะให้อันดับเว็บที่มีการอั
1 | <span class="date" style="display: none !important;">5 May 2011</span> |
ทิปส์นี้ผมทดสอบและเอาไปใช้งานกับเว็บ Money Site แล้วหลายๆ เว็บ ถือว่า OK อยู่นะครับ ลองดูว่ามีอะไรบ้าง
1. ลบ meta generator by WordPress ทิ้งไป
ถ้าไม่ลบออก Google bot มันจะรู้ทันทีเลยว่าเว็บนี้ใช้ WordPress ซึ่งจะให้มันรู้ไม่ได้เลยว่าเว็บเราใช้ CMS ตัวไหน มีผลต่ออันดับเช่นกัน ดังนั้นควรลบออก เปิดไฟล์ functions.php ที่มากับธีมที่ใช้งานปัจจุบัน เพิ่มโค้ดนี้ลงไป
ถ้าไม่ลบออก Google bot มันจะรู้ทันทีเลยว่าเว็บนี้ใช้ WordPress ซึ่งจะให้มันรู้ไม่ได้เลยว่าเว็
1 | remove_action('wp_head', 'wp_generator'); |
2. ลบ wp head ทิ้งซึ่งมันไม่จำเป็นต้องใช้
ส่วนนี้จะอยู่ืั้ เช่นพวก shortlink, prev, next, start, feed links ทั้งหายนั่นหละครับ ลบทิ้งเลยเปิดไฟล์ functions.php ที่มากับธีมที่ใช้งานปัจจุบัน เพิ่มโค้ดนี้ลงไป
ส่วนนี้จะอยู่ืั้ เช่นพวก shortlink, prev, next, start, feed links ทั้งหายนั่นหละครับ ลบทิ้งเลยเปิดไฟล์ functions.php ที่มากับธีมที่ใช้งานปัจจุบัน เพิ่มโค้ดนี้ลงไป
1 2 3 4 5 6 7 8 9 | remove_action( 'wp_head', 'feed_links_extra', 3 ); remove_action( 'wp_head', 'feed_links', 2 ); remove_action( 'wp_head', 'rsd_link'); remove_action( 'wp_head', 'wlwmanifest_link'); remove_action( 'wp_head', 'index_rel_link'); remove_action( 'wp_head', 'parent_post_rel_link'); remove_action( 'wp_head', 'start_post_rel_link'); remove_action( 'wp_head', 'adjacent_posts_rel_link_wp_ |
3. ทำลิงก์ออกในส่วนของ bookmarks link ให้เป็น no follow ซะ
ถ้าใครที่ไม่ต้องการให้ลิงก์ออกไปยังเว็บเพื่อนบ้านได้คะแนน PR หรืออยากเก็บ PR ไว้ที่เว็บเราก่อนก็ทำลิงก์ในส่วนนั้นเป็นแบบ no follow มีผลต่อ SEO มีผลต่อ PR ครับ เปิดไฟล์ functions.php ที่มากับธีมที่ใช้งานปัจจุบัน เพิ่มโค้ดนี้ลงไป
ถ้าใครที่ไม่ต้องการให้ลิงก์
1 | add_filter('get_bookmarks', 'no_follow'); |
4. ทำลิงก์ใน Tag ให้เป็นลิงก์ rel nofollow ทั้งหมด
ไม่ให้ PR ไต่ไปหน้า tag ในเมื่อเรามีบทึความดีๆ ที่หน้า post อยู่แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องให้ลิงก์ pr ออกไปยังหน้า tag และไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญในส่วน tag ครับ ยิ่งเว็บ Money site มีบทความคุณภาพแค่ 2-3 บทความ/เว็บ ยิ่งไม่จำเป็นต้องใส่ tag เลยครับ เปิดไฟล์ functions.php ที่มากับธีมที่ใช้งานปัจจุบัน เพิ่มโค้ดนี้ลงไป (nofollow ในส่วนของ widget tag ด้วย)
ไม่ให้ PR ไต่ไปหน้า tag ในเมื่อเรามีบทึความดีๆ ที่หน้า post อยู่แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องให้
1 2 3 4 | function add_nofollow_tag($sLink) { return str_replace('<a href=', '<a rel="nofollow" href=', $sLink); } add_filter('the_tags', 'add_nofollow_tag'); |
5. ลิงก์ Read More. ที่แสดงหน้าแรกโดย tag –more– นั้นทำให้มันเป็น nofollow
ลิงก์ในส่วนของ Read More หรือ Continue reading → หรือ อ่านเพิ่มเติมอะไรเนี่ย ทำให้มันเป็น nofollow link ซะ เพราะเราจะให้มันลิงก์แบบ dofollow ไปที่บทความเท่านั้น เปิดไฟล์ functions.php ที่มากับธีมที่ใช้งานปัจจุบัน เพิ่มโค้ดนี้ลงไป
ลิงก์ในส่วนของ Read More หรือ Continue reading → หรือ อ่านเพิ่มเติมอะไรเนี่ย ทำให้มันเป็น nofollow link ซะ เพราะเราจะให้มันลิงก์แบบ dofollow ไปที่บทความเท่านั้น เปิดไฟล์ functions.php ที่มากับธีมที่ใช้งานปัจจุบัน เพิ่มโค้ดนี้ลงไป
1 2 3 4 5 6 7 8 | add_filter('the_content_more_ |
6. ทำลิงก์ออกในหน้าบทความให้เป็น nofollow หรือไม่ก็ redirect ไปเลย
ส่วนนี้ใช้ปลั๊กอินช่วยละกัน คือปลั๊กอิน WP-NoExternalLinks ครับ
ส่วนนี้ใช้ปลั๊กอินช่วยละกัน คือปลั๊กอิน WP-NoExternalLinks ครับ
7. ปรับแต่ง sidebar โชว์ Random Post แทน Recent Post
เมื่อบอทมันเข้ามาเก็บข้อมูลแล้วมาเจอตรง Random Post ในส่วนของ sidebar มันจะเข้าไปเก็บโพสอื่นเรื่อยๆ เข้าไปโพสอื่นแล้วเจอ Random Post ก็เข้าไปเรื่อย ไม่ให้มันซ้ำกันนั่นเอง ที่ไฟล์ sidebar.php ของแต่ละธีมไม่เหมือนกัน ตัวอย่างโค้ด
เมื่อบอทมันเข้ามาเก็บข้อมูลแล้
1 2 3 4 5 6 7 8 | <li><h2>Random Post</h2> <ul class="randpost"> <?php $posts = get_posts('orderby=rand& |
8. Heading tag สำคัญมาก
- เมื่อเข้ามาหน้าแรก h1 ควรเป็นชื่อเว็บ รายชื่อบทความที่เป็นควรเป็น h2 หรือ h3 ห้ามเป็น h1
- เมื่อเข้าอ่านหน้าบทความส่วนของชื่อบทความควรเป็น h1 และชื่อเว็บ ไม่ควรใช้ Heading tag อาจจะใช้ div มาควบคุมแทน
- เมื่อเข้าไปดูหน้าหมวดหมู่หรือหน้า category, tag, archive ชื่อเว็บไม่ควรเป็น h1 อาจจะใช้ div มาควบคุมแทน รายชื่อบทความควรเป็น ul – li แทน และมีรูปประกอบด้วย และมีรายละเอียดบทความด้วยประมาณ 200-400 คำตามความเหมาะสม แต่ห้ามใส่มากไปเพราะมันจะ Duplicate content สำคัญมาก ตัวอย่าง category | ตัวอย่าง tag | ตัวอย่าง archive ตัวอย่างเว็บนี้เลย view-source ดูครับ
- เมื่อเข้ามาหน้าแรก h1 ควรเป็นชื่อเว็บ รายชื่อบทความที่เป็นควรเป็น h2 หรือ h3 ห้ามเป็น h1
- เมื่อเข้าอ่านหน้าบทความส่
- เมื่อเข้าไปดูหน้าหมวดหมู่หรื
9. ใส่คำสั่งควบคุม robots ที่สำคัญๆ ไว้ทุกหน้า
เพื่อควบคุบ robots ควรจะเพิ่มคำสั่งให้มันบ้าง เช่น
เพื่อควบคุบ robots ควรจะเพิ่มคำสั่งให้มันบ้าง เช่น
1 2 | <meta name="robots" content="index,follow,noodp, |
10. footer ด้านล่างสุด
ต้องมีลิงก์ยิงมาที่หน้าแรกเสมอ และควรมีแค่ลิงก์ชื่อเว็บ + รายละเอียดเว็บเท่านั้น อย่าเยอะไป เช่นโค้ด
ต้องมีลิงก์ยิงมาที่หน้าแรกเสมอ และควรมีแค่ลิงก์ชื่อเว็บ + รายละเอียดเว็บเท่านั้น อย่าเยอะไป เช่นโค้ด
1 2 3 | <p>© 2012 <a href="<?php bloginfo('url'); ?>"><?php bloginfo('name'); ?></a> <br /><?php bloginfo('description'); ?> </p> CRADIT: 2012 SEO Tip For WordPress by Bird |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น